วันเดียวก็เที่ยวได้ ไหว้พระ 9 วัดศักดิ์สิทธิ์

ทริปไหว้พระ 9 วัดอยุธยา ศักดิ์สิทธิ์ และได้บุญเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เพียงแต่ชาวสายบุญรู้จักเท่านั้นแต่ยังเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเมืองเก่าใกล้เคียงที่สามารถเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี เขาใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงอยุธยาในขณะที่เขากำลังขับรถจากกรุงเทพฯ มีร้านอาหารและคาเฟ่อร่อยๆ มากมาย ลองแวะดู วัดเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อสมัยอยุธยาที่ส่งผลดีต่อการงาน การเงิน ความรัก สุขภาพ อยู่ที่ไหน? เรารวบรวม 9 วัด ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสถานที่ทางศาสนาที่สวยงาม คุณจะได้พักผ่อนและขับรถเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางเช็คอิน วันหยุดนี้ควรวางแผนอย่างเป็นระบบ

เข้าใจแล้ว! แม้แต่อยุธยาก็เที่ยวสบายใกล้กรุง อย่างไรก็ตามอย่าลืมตรวจเช็คสภาพรถ เช่น น้ำมัน ยาง แบตเตอรี่ ที่ปัดน้ำฝน ฯลฯ ก่อนออกเดินทางเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง . เพียงปักหมุดบน Google Maps แล้วขับรถในตอนเช้าตรู่ เพื่อให้คุณทำภารกิจทั้งหมดได้ในวันเดียว นอกจากนี้ บางแห่งยังมีการประดับไฟเพื่อให้เห็นโบราณสถานอีกด้วย กรุณาติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์ อยุธยา

1. วัดใหญ่ชัยมงคล วัดอยุธยา ศักดิ์สิทธิ์

1. วัดใหญ่ชัยมงคล วัดอยุธยา ศักดิ์สิทธิ์

เริ่มต้นด้วยการอธิษฐานขอความสำเร็จในวัดแรกและเสริมเมตตามหานิยม วัดอยุธยา ศักดิ์สิทธิ์ วัดใหญ่ชัยมงคลเป็นวัดโบราณสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) “วัดปากแก้ว” ก่อนที่พระเจ้าอู่ทองจะสร้างเป็นวัดในปี พ.ศ. 1357 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดปะแก้ว” และเป็นวัดที่มีหอระฆังที่ใหญ่ที่สุดในอยุธยา ยังเป็นหอคอยที่สมเด็จพระนเรศวรโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น และพระราชทานนามเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะในศึกยุทธหัตถี ‘เจดีย์ชัยมงคล’ เพื่อให้ผู้คนได้สักการะและขอพรให้ประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน ภายในวิหารมีพระพุทธไสยาสน์หรือพระนอนของวัดใหญ่ชัยมงคล เชื่อว่าเป็นการขอขมา เมตตา และเป็นที่รักใคร่นับถือของผู้อาวุโส

2. วัดมหาธาตุ วัดอยุธยา ศักดิ์สิทธิ์

2. วัดมหาธาตุ วัดอยุธยา ศักดิ์สิทธิ์

หนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงระดับโลกของอยุธยา เศียรพระพุทธรูปที่ปกคลุมด้วยรากไม้เป็นภาพที่สะดุดตา เป็นวัดที่นิยมมาขอพรให้กล้าหาญพร้อมฟันฝ่าอุปสรรคด้วยสติและพละกำลัง แล้วเสร็จในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวรแห่งราชวงศ์อู่ทอง เมื่อ พ.ศ. 2470 รวมทั้งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ใต้ฐานพระประธานของวัดมหาธาตุ

เดิมวัดแห่งนี้เป็นศาสนสถานที่สำคัญในสมัยอยุธยา เพราะเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชแห่งจังหวัดคามวาสี เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ จนกระทั่งถูกทิ้งร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาจนเหลือแต่ซากปรักหักพัง เสียกรุงครั้งที่ 2 ยอดพระปรางค์พังทลายในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่วัดมหาธาตุยังมีมนต์เสน่ห์ที่นักเดินทางจากทั่วโลกอยากไปสัมผัสโดยตรง

3. วัดราชบูรณะ วัดอยุธยา ศักดิ์สิทธิ์

3. วัดราชบูรณะ วัดอยุธยา ศักดิ์สิทธิ์

ตรงข้ามวัดมหาธาตุคือวัดราชบูรณะ วัดใหญ่และเก่าแก่วัดหนึ่งของอยุธยา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1424 ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เขินอายและเป็นที่ซ่อนสมบัติของชาติ เช่น แก้ว แหวน เงิน และของมีค่าภายในวัด

เป็นวัดดังที่มีเรื่องราวของกรุแบบแปลนขนาดใหญ่ เช่น พระแสงขรรค์ มงกุฎ เครื่องทอง พระแก้ว พระทองคำ นาก และเครื่องบูชาโบราณชิงช้ากว่า 100,000 ชิ้น ต่างเล่ากันว่าครั้งหนึ่งทางวัดเคยมีการขโมยสมบัติของวัด (ประมาณ พ.ศ. 2499-2500) รวมทั้งพระบรมสารีริกธาตุ แต่แล้ว โจรทั้งหมดก็ทยอยล้มหายตายจากไปอย่างน่าสยดสยอง , 1 ปีกับ 1 ผู้รอดชีวิตไป. บ้า.

ดังนั้น แผนกศิลป์จึงมาในเดือนกันยายน พ.ศ. 2500 เพื่อขุดค้นสมบัติของแบบแปลน แต่ก็ต้องประหลาดใจกับจำนวนของสมบัติที่เหลืออยู่ในแผนผัง เก็บไว้ในพิพิธภัณฑสถานเจ้าสามพระยา งานนี้ ใครจะกล้าไปชมโดยไม่ไปชมความสวยงามของวัดราชบูรณะ ถนนเส้นนี้ชันและเรียกได้ว่าหวาดเสียวมาก ไม่เป็นไร. นั่งพักข้างบนดีกว่า

4. วัดพระศรีสรรเพชญ์

4. วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดอยุธยา ศักดิ์สิทธิ์

ในบรรดาวัดโบราณนับแสนแห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ‘วัดพระศรีสรรเพชญ์’ ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่งเทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในกรุงเทพฯ ต่อมาในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โปรดเกล้าฯ ให้ย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือ ก่อนสร้างวัดในปี พ.ศ. 2534 ท่านได้เตรียมที่ดินสำหรับเขตพุทธาวาส


เนื่องจากเป็นพระอารามหลวงจึงไม่มีพระภิกษุจำพรรษา สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของกษัตริย์ ภายในวัดมีโบราณวัตถุที่สำคัญ ได้แก่ เจดีย์ทรงระฆังกลมขนาดใหญ่สามองค์ วัดที่สองบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 และพระวิหารที่ 3 (ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก) บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ใครไปอยุธยาต้องแวะวัดนี้ให้ได้

5. วัดพระราม

5. วัดพระราม

นอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวอยุธยาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแล้ว ‘วัดพระราม’ ยังสร้างขึ้นในสมัยพระราเมศวร พ.ศ. 2455 และเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระเจ้าอู่ทอง (พระราชบิดา) ตามตำนาน -ต๋องอพยพผู้คนหนีโรคระบาดมาตั้งถิ่นฐานริมบึงหนองโสน หรือ ‘บึงกีคาน’ ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น ‘บึงลามะ’ สระน้ำขนาดใหญ่หน้าวัด ทำ. เกิดจากการขุดดินถมวัดนั่นเอง

ก้าวเข้าไปในส่วนโค้งของวัดเพื่อชมสถูปขนาดใหญ่ที่สง่างามและหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากเขมรโบราณในละโว้ (ลพบุรี) ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ‘เขาพระสุเมรุ’ ภูเขาใจกลางจักรวาลและบนยอดเขาพระสุเมรุคือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั่นเอง กล่าวกันว่าการมาถึงวัดลามะเปรียบเสมือนการมาเยือนเมืองสวรรค์ แสวงหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดก็จะสำเร็จดังใจปรารถนา นั่งพักผ่อนชมความงามของบุญรามาในยามเย็น (หากรวมแต้มบุญด้วย)

6. วัดพระงาม คลองสระบัว

6. วัดพระงาม คลองสระบัว

อย่าพลาดสี่แยกเมื่อมาถึงอยุธยา ประตูแห่งกาลเวลาในวัดปรางม ถือเป็นหนึ่งใน Invisible Thailand วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น และได้รับการซ่อมแซมหลายครั้ง ส่วน Gate of Time นั้นถูกปกคลุมด้วยรากไม้ดอกเหลืองเป็นเวลาหลายร้อยปี เมื่อถึงเวลานิยมถ่ายรูปกับซุ้มประตู นั่นคือ ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น (ประมาณ 06.00 น. ) หรือก่อนพระอาทิตย์ตกดิน (ประมาณ 18.00 น.) พระอาทิตย์จะทอแสงสีส้มทองลอดผ่านซุ้มประตูเข้าสู่พระอุโบสถและนำไปสู่เจดีย์แปดเหลี่ยมที่อยู่ด้านใน ใครเห็นก็ต้องประทับใจสุดๆ

7. วัดกุฎีดาว

ใครเคยได้ยินเกี่ยวกับ “ตำนานศาลเจ้าอุระซันโดะ” ไม่ควรพลาดวัดนี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวและความงดงามของความศักดิ์สิทธิ์ของเทวดาอารักษ์ที่ปกปักรักษาโบราณสถานแห่งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 หม่อมเจ้าพีรพงศ์ภาณุเดชได้รับสมุดบันทึกปลาตะเพียนโบราณที่เขียนด้วยอักษรไทยโบราณจากพระรูปหนึ่ง มีภาพวาดแสดงที่ตั้งพระเจดีย์วัดกุฎิดาวและที่ตั้งพระกรุ 16 องค์ ทำให้สำนักศิลปากรขุดแต่งและเรื่องราวแปลกๆ มากมาย ทำให้การค้นหาต้องยุติลงในที่สุด

ประวัติของวัดกุฎีดาวไม่ปรากฏแน่ชัดและมีหลักฐานคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามเชื่อกันว่าสร้างขึ้นในคราวเดียวกับวัดมเหยิน (วัดไพเราะ) เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามวัดหนึ่ง นอกจากนี้ นอกกำแพงแก้วยังมีพระตำหนักที่เรียกว่า “กำมะเลียน” ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นพระตำหนักของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ใช้เป็นที่พักแรมระหว่างการบูรณะวัด ความสวยงามของวัดยังทำให้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง ‘พิศวาส’ และมักมีผู้มาขอพรให้โชคดีและประสบความสำเร็จ

8. วัดภูเขาทอง

8. วัดภูเขาทอง

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นพุทธสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอยุธยา แต่วัดภูเขาทองก็ยังคงเป็นชัยภูมิสำคัญในประวัติศาสตร์การสู้รบของพม่า วัดนี้สร้างในสมัยพระราเมศวร (อยุธยาตอนต้น) เมื่อพระเจ้าบุเรงนองเสียกรุงครั้งแรกก่อนที่จะได้ชัยชนะเหนือกรุงศรีอยุธยา พระองค์จึงทรงสร้างหอรบแบบมอญพม่าครอบไว้เหนือหอเดิมเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือกรุงศรีอยุธยา เมื่อสมเด็จพระนเรศวรทรงกอบกู้เอกราชได้สำเร็จ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างหอรบแบบไทยขึ้นเหนือฐานมอญและพม่า

เจดีย์ที่เห็นในปัจจุบันนี้น่าจะเป็นดังนี้ ได้รับการบูรณะอย่างงดงามในสมัยพระมหาธรรมราชา อีกทั้งความงามของวัดภูเขาทองยังปรากฏมาจนถึงสมัยพระเพทราชา (พ.ศ. 2112-2246) “นิราสภูเขาทอง” โดย สุธนปู่

9. วัดไชยวัฒนาราม

9. วัดไชยวัฒนาราม

วัดเก่าแก่อีกวัดหนึ่งที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตในยุคออเจ้ารุ่งเรือง (จากละคร บุพเพสันนิวาส) สาวๆ ในชุดไทยสไบสวยๆ ถ่ายรูปสวยๆ อวดกัน ต้า. วัดนี้มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากมาย ใครได้เข้าไปสัมผัสความงามทางสถาปัตยกรรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะต้องหลงรัก วัดไชยวัฒนาราม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปราสาทเขาทอง (พ.ศ. 2173-2198) และเป็นสถานที่ฝังพระศพของสมเด็จเจ้าฟ้าธรรมวิเทศ (เจ้าฟ้ากุ้ง) กวีผู้ยิ่งใหญ่แห่งกรุงศรีอยุธยาตอนปลายที่เคียงข้างเจ้าฟ้าสังวาลย์ที่ต้องถูกเฆี่ยนตีจนสวรรคตในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ

จุดเด่นของวัดนี้คือระเบียงรอบหอคอยหลัก ‘Labian Klot’ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย และเชื่อว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือขอมเพราะพระเจ้าปราสาททองโปรดเกล้าฯให้สร้างวัดนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติอัครมเหสี ส่งผลให้รูปแบบสถาปัตยกรรมภายในวัดบางส่วนได้รับอิทธิพลมาจากปราสาทนครวัด